แม้ศึกแดงเดือดเที่ยวล่าสุดจะจบลงด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ แต่พลพรรคแฟนผีกลับรู้สึกปลื่มปริ่มประหนึ่งเป็นผู้ชนะ เพราะนอกจากจะมีแต้มติดมือกลับบ้านแล้ว ขุนพลอสูรยังกลายเป็นทีมแรกในซีซั่นนี้ที่ออกจากสมรภูมิแอนด์ฟิลด์โดยไม่แพ้ พร้อมกับลากอริตัวฉกาจล่วงจากบัลลังก์จ่าฝูงอีกด้วย
ต้องยอมรับว่าวิเคราะห์บอลก่อนเริ่มเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นรองทีมเจ้าบ้านอยู่หลายขุม โดยเฉพาะฟอร์มบู่คาบ้านต่อเนื่องจากการโดนยำเละเทะในเกมลีกกับบอร์นมัธ ตามด้วยพ่ายให้กับบาเยิร์นในเกมยุโรปจนรั้งบ๋วยของกลุ่ม แล้วไหนจะผลงานเมื่อฤดูกาลก่อนที่สะบักสะบอมกลับออกไปด้วยสกอร์ 7-0
หนำซ้ำนักเตะหมดสิทธิลงสนามไม่ได้ในเกมนี้ยังยาวเป็นหางว่าว ทั้งนักเตะที่เจ็บมานานอย่างมาร์ติเนซ คาเซมิโร่ เมาท์ เอริคเซ่น เจ็บออดๆ แอดๆ อย่างมาร์กซิยาล แม็กไกวร์ แถมแรชฟอร์ดยังมาโดนไวรัสเล่นงานจนแทบไม่ได้ซ้อมทั้งสัปดาห์ ยิ่งกว่านั้นฟันเฟืองสำคัญอย่างบรูโน่ก็ทำได้แค่นั่งดูเพื่อนข้างสนามจากการสะสมใบเหลืองครบโควต้า
ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้ก่อนลงสนามบรรดาเกจิลูกหนังทั่วโลกต่างเห็นพ้องกันว่าปีศาจแดงคงไม่รอดออกจากรังหงส์ที่เป็นดังขุมนรกทีมเยือนในฤดูกาลนี้ จนมีเสียงซุบซิบหนาหูว่าแดงเดือดคำรบนี้อาจเป็นเกมสุดท้ายของเอริค เทน ฮาก เฉกเช่นกุนซือปีศาจหลายคนก่อนหน้านี้
แถมเมื่อประกาศรายชื่อออกมา นักเตะที่ถูกมอบหมายให้รับมือแนวรุกอันจัดจ้านของลิเวอร์พูลกลับเป็นคู่ปราการหลังสูงวัยทั้งวารานและอีแวนส์ ที่เพิ่งลงสนามคู่กันเป็นครั้งแรก แต่เซอร์ไพรส์ที่สุดคงหนีไม่พ้นแม็คโทมิเนย์ในบทบาทกัปตันทีม แค่เห็นทีมชีตก็เหนื่อยแทนแล้ว
แต่เมื่อลงสนามจริงๆ วารานกลับเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดจนขว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำแมตช์ไปครอง ด้วยผลงานการหยุดเกมบุกของเจ้าบ้านได้ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเอาชนะการดวลกลางอากาศได้ 100% และเคลียร์บอลไปถึง 15 ครั้ง
การเจอกับลิเวอร์พูลชั่วโมงนี้แน่นอนอยู่แล้วว่ายูไนเต็ดคงต้องเน้นการตั้งรับเป็นหลัก ซึ่งนักเตะปีศาจแดงทุกคนก็ช่วยกันทำหน้าที่ปกป้องปากประตูอย่างดีแม้จะถูกบุกหนักระรอกแล้วระรอกเล่า ปีก 2 ข้างลงมาช่วยเกมรับเต็มที่ จนแอนโทนี่กลายเป็นนักเตะที่สกัดบอลได้มากที่สุดในทีม
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณเหล่านักเตะลิเวอร์พูลด้วยที่แม้จะสร้างโอกาสยิงประตูมากถึง 27 ครั้ง แต่ก็ยอมทำบาปยิงนกตกปลาเสียเป็นส่วนใหญ่ จนทัพปีศาจแดงที่ถึงแม้จะแทบไม่มีโอกาสได้ยิงแต่ก็ไม่แพ้เช่นกัน
ขึ้นชื่อว่าศึกแดงเดือดต้องมีเรื่องให้พูดถึงหลังเกมได้ทุกครั้งไป โดยรอบนี้มีเหตุการณ์ใบแดงท้ายเกมของดาโลต์ จากจังหวะโวยใส่ผู้ตัดสินที่เป่าให้ลูกทุ่มกับฝั่งเจ้าบ้าน ทั้งที่ภาพช้าแสดงชัดเจนว่ากรรมการตัดสินผิด แต่ที่ถูกพูดถึงมากสุดคงหนีไม่พ้นการให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังเกมของโอนาน่า
ผู้รักษาประตูปีศาจแดงถูกนักข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรกับบรรยากาศแดงเดือดในสนามแอนฟิลด์ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบตามจริงว่า “ก็ไม่เห็นเป็นไงนี่” สั้นๆ แต่ได้ใจแฟนผี ยิ่งเมื่อรวมกับจังหวะเซฟจังๆ 2 หนจากลูกโหม่งเต็มหัวของฟาน ไดร์ค และลูกยิงของซาลาห์ รางวัล MVP ขวัญใจแฟนผีคงตกเป็นของ โอนาน่า ผู้นี้แน่นอน
ยังไงก็ตามมันก็ดูไม่ใช่เรื่องดีนักที่ทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องมาดีใจกับผลเสมอ ได้แต่หวังว่าทีมเวิร์คในนัดนี้จะสร้างบรรยากาศภายในทีมให้ดีขึ้น ต่อยอดไปถึงผลการแข่งขันนัดต่อๆ ไป เพื่อรักษาอันดับในการลุ้นท็อป 4 ซึ่งดูจะเป็นเป้าหมายหลักของซีซั่นนี้ไปแล้ว
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC